วันนี้ Apple ประกาศว่า Self Service Repair จะพร้อมให้บริการในวันที่ 21 มิถุนายนสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 14 และ Mac รุ่นอื่นๆ เพิ่มเติม ได้แก่ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว, MacBook Air M2 และ MacBook Pro M2 Pro และ M2 Max
Apple ยังทำให้กระบวนการ System Configuration ซึ่งใช้สำหรับการซ่อมส่วนประกอบ iPhone อย่างจอภาพ แบตเตอรี่ และกล้องนั้น ใช้ง่ายขึ้นด้วย System Configuration เป็นเครื่องมือซอฟต์แวร์หลังการซ่อมที่จะตรวจสอบว่ามีการใช้ชิ้นส่วนแท้ของ Apple
ผู้ใช้ Self Service Repair สามารถเริ่มการทำงานของ System Configuration ได้โดยการทำให้อุปกรณ์เข้าสู่โหมด Diagnostics จากนั้นทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดต่อทีมบริการช่วยเหลือของ Self Service Repair เพื่อทำขั้นตอนสุดท้ายของการซ่อม แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือทีมงานยังคงพร้อมให้ความช่วยเหลือหากจำเป็น
นอกจากนี้ Self Service Repair สำหรับกล้อง True Depth และลำโพงด้านบนของ iPhone 12 และ iPhone 13 รวมถึง Mac Desktop ชิป M1 จะพร้อมให้บริการในสหรัฐอเมริกา, เบลเยียม, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, โปแลนด์, สเปน, สวีเดน และสหราชอาณาจักร
Self Service Repair เป็นหนึ่งในความพยายามของ Apple ที่จะขยายการซ่อมให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้ เนื่องจากการเปิดให้เข้าถึงการซ่อมได้อย่างกว้างขวางนั้นมีส่วนสำคัญในการช่วยยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นเรื่องดีทั้งต่อผู้ใช้และต่อโลกใบนี้ สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว การไปพบผู้ให้บริการซ่อมมืออาชีพพร้อมช่างเทคนิคที่ได้รับการรับรองและใช้ชิ้นส่วนแท้ของ Apple เป็นวิธีที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มากที่สุดในการซ่อม
Apple กล่าวว่า Self Service Repair ได้รับการออกแบบมาสำหรับ “บุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ในการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” เป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ที่เปิดเผยว่าสหภาพยุโรปมีแผนที่จะกำหนดให้แบตเตอรี่ในอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์และแท็บเล็ตควรถอดและซ่อมแซมได้ง่ายสำหรับลูกค้า
ที่มา:Apple